아.이.유 จะมีใครที่หัวใจไม่เต้นถี่ขึ้นเมื่อได้ยินคำ 3 พยางค์นี้? จากเพลง ‘Good Day’, ‘You and I’, ‘Every End of the Day’, ‘The Red Shoes’ และเพลงฮิตอีกมากมาย และด้วยความเป็นกันเองในการตอบคอมเม้นต์ของแฟนๆในU愛나แฟนคาเฟ่ของเธอ เธอเป็นผู้หญิงในอุดมคติของผู้ชายมากมาย ได้รับความรักจากแฟนๆที่เป็นเด็กผู้หญิง แฟนๆรุ่นคุณอาและอีกมากมาย เรื่องราวของไอยูนั้นเป็นยังไปดูกันเลย
ไอยูกลับมากับผลงานอัลบั้มรีเมค
วันที่ 16 พฤษภาคมปีนี้ ซึ่งตรงกับวันเกิดของไอยู เธอได้ปล่อยผลงานอัลบั้มชื่อว่า ‘A Flower Bookmark' ออกมา 'My Old Story' ซึ่งเป็นเพลงรีเมคจาก ชเว ดอกแบ เพลง 'Meaning of You' ที่ดูเอ็ทกับ คิม ชางวาน และเพลงอื่นๆ เพลงเหล่านี้ได้ขึ้นแท่น all-kill ในชาร์จเพลงตั้งแต่ในวินาทีที่ถูกเผยแพร่ออกมา อาจเพราะเป็นเพลงที่เป็นที่ชื่นชอบในอดีตและได้ถูกนำมาเล่าใหม่ด้วยเอกลักษณ์ของไอยู เธอได้รับความเห็นในแง่บวกจากแฟนคลับที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น จนถึงผู้ใหญ่ในวัย 50 60
"ตอนที่ฉันร้องเพลงเก่าๆของรุ่นพี่ออกรายการ มีคนมากมายบอกว่าชอบและมีหลายคนอยากให้ทำรีเมค ฉันเลยเลือกเพลงที่ฉันคิดว่าอยากลองร้องมากที่สุด"
ในขั้นตอนการเตรียมอัลบั้มนั้นเป็นช่วงที่ลำบาก ไอยูได้รับความช่วยเหลือมากมายจากรุ่นพี่และเธอก็ได้หลายๆกลับมาพิจารณาตัวเอง ผลที่ออกมาจากความพยายามของเธอก็คือในทุกๆเพลงนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเธอเอง
คิมบอมซู (นักร้อง) ใช้ความรู้สึกในตอนที่แยกทางกับแฟนของเขาเพื่อแสดงความรู้สึกคิดถึงใครบางคน คล้ายกับนักร้องอีกหลายๆคนที่มีเรื่องราวเฉพาะตัวของตัวเอง แล้วของไอยูล่ะ เป็นเรื่องราวแบบไหน?
"ตอนที่ฉันร้องเพลงเก่าๆของรุ่นพี่ออกรายการ มีคนมากมายบอกว่าชอบและมีหลายคนอยากให้ทำรีเมค ฉันเลยเลือกเพลงที่ฉันคิดว่าอยากลองร้องมากที่สุด"
ในขั้นตอนการเตรียมอัลบั้มนั้นเป็นช่วงที่ลำบาก ไอยูได้รับความช่วยเหลือมากมายจากรุ่นพี่และเธอก็ได้หลายๆกลับมาพิจารณาตัวเอง ผลที่ออกมาจากความพยายามของเธอก็คือในทุกๆเพลงนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเธอเอง
คิมบอมซู (นักร้อง) ใช้ความรู้สึกในตอนที่แยกทางกับแฟนของเขาเพื่อแสดงความรู้สึกคิดถึงใครบางคน คล้ายกับนักร้องอีกหลายๆคนที่มีเรื่องราวเฉพาะตัวของตัวเอง แล้วของไอยูล่ะ เป็นเรื่องราวแบบไหน?
"ตอนที่มีเรื่องเศร้าและเลวร้ายเกิดขึ้น ฉันคิดในใจว่า 'โอ๊ะ! ฉันควรจะเก็บความรู้สึกแบบนี้เอาไว้นะ!' แบบนี้มันเป็นโรคที่เกิดจากการทำงานแบบนี้หรือเปล่าคะ? ฮ่าฮ่า แต่ก็เพราะความคิดแบบนั้น ฉันเลยไม่สามารถจดจ่อความรู้สึกของตัวเองได้ และจมปลักกับมันไม่ได้เพราะฉันกำลังยุ่งอยู่กับการจดจำความรู้สึกนั้นเอาไว้ ความรู้สึกมันก็เลยหายไปและฉันก็หยุดร้องไห้ไปเลย"
ไอยูอธิบายให้เห็นว่าการอ่านหนังสือนั้นช่วยเธอในเรื่องการแต่งเพลงได้ ในวัยเด็กไอยูอ่านหนังสือมากมาย เป็นสิ่งที่ได้รับอิทธิพลมาจากพ่อแม่ เธอรู้สึกว่าในขณะที่เธออ่านในแต่ละบรรทัดนั้นทำให้เธอสามารถเรียนรู้เรื่องราวที่ไม่ได้เจอในชีวิตประจำวันได้
"ตอนที่อ่านหนังสือฉันจะใส่ความคิดส่วนตัวลงไปเล็กน้อยและมันทำให้ความคิดของฉันลึกซึ้งขึ้น หลายๆความคิดและไอเดียนั้นถูกเก็บสะสมเอาไว้ในหนังสือ เมื่อฉันอ่านมัน ฉันจะจมอยู่ในความคิด ไอเดียใหม่ๆจะเริ่มเกิดขึ้นในหัว ไอเดียที่ฉันคิดว่ามันจะมีประโยชน์สำหรับการทำงานในวงการเพลงของฉันในอนาคต"
จากคำขอที่อยากให้ไอยูช่วยแนะนำหนังสือ ไอยูได้พูดถึง “Hear the Wind Sing” ของ มูราคามิ ฮะรุกิ เธอบอกว่าชื่นชอบในความเป็นกลางและความสงบที่เป็นสไตล์การเขียนของฮะรุกิ ในความเยือกเย็นนั้นมีความจริงใจอยู่และบางทีก็ทำให้รู้สึกถึงความเดียวดายได้เช่นกัน ล่าสุดนี้เธอได้อ่าน “Falling into the Evening” ของเอคุนิ คาโอริ เทียบกับภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่อลังการแล้ว ไอยูเลือกหนังสือเล็กๆที่อ่านได้ทุกวันมากกว่า โดยเธอแสดงความรู้สึกว่าหนังสือนั้นเป็นพาหนะที่พาเราข้ามผ่านโลกไปได้ในแต่ละวันด้วยความเข้าใจ
ไอยูอธิบายให้เห็นว่าการอ่านหนังสือนั้นช่วยเธอในเรื่องการแต่งเพลงได้ ในวัยเด็กไอยูอ่านหนังสือมากมาย เป็นสิ่งที่ได้รับอิทธิพลมาจากพ่อแม่ เธอรู้สึกว่าในขณะที่เธออ่านในแต่ละบรรทัดนั้นทำให้เธอสามารถเรียนรู้เรื่องราวที่ไม่ได้เจอในชีวิตประจำวันได้
"ตอนที่อ่านหนังสือฉันจะใส่ความคิดส่วนตัวลงไปเล็กน้อยและมันทำให้ความคิดของฉันลึกซึ้งขึ้น หลายๆความคิดและไอเดียนั้นถูกเก็บสะสมเอาไว้ในหนังสือ เมื่อฉันอ่านมัน ฉันจะจมอยู่ในความคิด ไอเดียใหม่ๆจะเริ่มเกิดขึ้นในหัว ไอเดียที่ฉันคิดว่ามันจะมีประโยชน์สำหรับการทำงานในวงการเพลงของฉันในอนาคต"
จากคำขอที่อยากให้ไอยูช่วยแนะนำหนังสือ ไอยูได้พูดถึง “Hear the Wind Sing” ของ มูราคามิ ฮะรุกิ เธอบอกว่าชื่นชอบในความเป็นกลางและความสงบที่เป็นสไตล์การเขียนของฮะรุกิ ในความเยือกเย็นนั้นมีความจริงใจอยู่และบางทีก็ทำให้รู้สึกถึงความเดียวดายได้เช่นกัน ล่าสุดนี้เธอได้อ่าน “Falling into the Evening” ของเอคุนิ คาโอริ เทียบกับภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่อลังการแล้ว ไอยูเลือกหนังสือเล็กๆที่อ่านได้ทุกวันมากกว่า โดยเธอแสดงความรู้สึกว่าหนังสือนั้นเป็นพาหนะที่พาเราข้ามผ่านโลกไปได้ในแต่ละวันด้วยความเข้าใจ
ไอยูในวัย 20 มีภาพเป็นแบบไหน?
ผู้อ่านหลายๆคนของ Young Samsung ที่อยู่ในวัย 20 คงจะมองไอดอลอย่างไอยูและคิดว่า "หากฉันประสบความสำเร็จแบบนั้นบ้างล่ะก็..." เป็นความจริงที่ว่าไอยูนั้นเข้าวงการตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และกลายไอดอลที่มีมีชื่อเสียง เธอไม่ต้องสนใจเกี่ยวกับเรื่องเกรดหรือเบียดตัวเองผ่านประตูแคบๆเพื่อให้ได้เข้าทำงาน แล้วเธอล่ะ คิดยังไงกับคนรอบๆตัวที่อยู่ในช่วงวันเดียวกันกับเธอ?
"ในบางครั้งที่ฉันเจอกับเพื่อนสมัยมัธยม พวกเขากำลังเตรียมตัวเข้าทำงาน สำหรับฉันแล้วคำว่าทำงานมันฟังดูเหมือนคำศัพท์ของพวกผู้ใหญ่ เพราะงั้นฉันเลยคิดว่าเพื่อนๆคงเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคตของพวกเขา ฉันรู้สึกแบบนั้นก่อนที่จะรู้ตัวว่าทุกๆคนได้กลายเป็นผู้ใหญ่ไปหมดแล้ว ทุกคนยกเว้นฉัน เพราะจิตสำนึกของฉันเหมือนว่ามันจะหยุดอยู่ที่ช่วงมัธยมปลาย"
เมื่อถามเธอว่าที่พูดแบบนั้นเพราะยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กอยู่หรอ สิ่งที่เธอตอบกลับมานั้นเหมือนกับคนที่ได้ผ่านการใช้ชีวิตอย่างแตกต่างกับคนอื่นโดยสิ้นเชิง "ฉันคิดว่าถ้าหากได้ลองสมัครงานฉันคงทำให้ดีเท่ากับคนอื่นๆไม่ได้ เพราะงั้นเวลาที่ฉันมองดูเพื่อนตัวเองในวัย20 ฉันมักจะคิดว่าพวกเขาน่าทึ่งและอยากจะเป็นกำลังใจให้พวกเขาค่ะ" เพื่อนสนับสนุนเพื่อนๆที่กำลังสอบเข้ามหาวิทยาลัยเธอได้ให้เค้กข้าวและให้คำแนะนำในเรื่องการค้นหาเส้นทางชีวิตของตัวเอง
"ในบางครั้งที่ฉันเจอกับเพื่อนสมัยมัธยม พวกเขากำลังเตรียมตัวเข้าทำงาน สำหรับฉันแล้วคำว่าทำงานมันฟังดูเหมือนคำศัพท์ของพวกผู้ใหญ่ เพราะงั้นฉันเลยคิดว่าเพื่อนๆคงเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคตของพวกเขา ฉันรู้สึกแบบนั้นก่อนที่จะรู้ตัวว่าทุกๆคนได้กลายเป็นผู้ใหญ่ไปหมดแล้ว ทุกคนยกเว้นฉัน เพราะจิตสำนึกของฉันเหมือนว่ามันจะหยุดอยู่ที่ช่วงมัธยมปลาย"
เมื่อถามเธอว่าที่พูดแบบนั้นเพราะยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กอยู่หรอ สิ่งที่เธอตอบกลับมานั้นเหมือนกับคนที่ได้ผ่านการใช้ชีวิตอย่างแตกต่างกับคนอื่นโดยสิ้นเชิง "ฉันคิดว่าถ้าหากได้ลองสมัครงานฉันคงทำให้ดีเท่ากับคนอื่นๆไม่ได้ เพราะงั้นเวลาที่ฉันมองดูเพื่อนตัวเองในวัย20 ฉันมักจะคิดว่าพวกเขาน่าทึ่งและอยากจะเป็นกำลังใจให้พวกเขาค่ะ" เพื่อนสนับสนุนเพื่อนๆที่กำลังสอบเข้ามหาวิทยาลัยเธอได้ให้เค้กข้าวและให้คำแนะนำในเรื่องการค้นหาเส้นทางชีวิตของตัวเอง
ไอยู คนดังที่ติดต่อสื่อสารกับแฟนคลับของตัวเองเสมอ
ไอยูมีภาพลักษณ์ที่บริสุทธิ์และน่ารัก มีเสียงที่น่าทึ่ง อย่างเช่นเสียงสูง 3 ชั้นในเพลง Good Day เธอสามารถถ่ายทอดอารมณ์ออกมาทางเสียงได้ดี แต่สิ่งที่ทำให้ไอยูได้รับความรักมาถึงทุกวันนี้เป็นเพราะว่าเธอเป็นหนึ่งเดียวกันกับแฟนคลับของเธอเสมอ แตกต่างจากไอดอลอื่นๆ เธอไม่ได้คำนึงถึงความโด่งดังของตัวเองและพยายามทำตัวเองให้อยู่ในระดับเดียวกับแฟนคลับ อย่างที่เห็นได้บ่อยๆจากการที่เธอทิ้งคอมเม้นเอาไว้ในแฟนคาเฟ่
ไอยูไม่ได้รักษาระยะห่างเพราะว่าเธอเป็นคนดังแต่อย่างใด และการคุยกับแฟนๆก็เป็นนิสัยตามธรรมชาติของเธอ เมื่อถามเกี่ยวกับความลับของเธอในข้อนี้เธอก็ได้หัวเราะอย่างอายๆและตอบ
"ความลับหรอคะ? มันก็แค่... ฉันไม่มีกำแพงกั้นตัวเองจากแฟนคลับเลยจริงๆ เพราะงั้นมันเลยเป็นความรู้สึกเหมือนกับเป็นเพื่อนกัน พวกเขาไม่ได้กดดันหรือยกย่องอะไรฉันมากมาย เราต่างทำตัวสบายๆ บางทีก็เย็นชาใส่กันบางทีก็อบอุ่น ฉันรู้สึกขอบคุณเสมอที่ได้มีแฟนคลับแบบนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเรามันไม่ได้เป็นแบบนักร้องกับแฟนคลับเท่าไหร่นัก แต่มันเหมือนเพื่อนที่เข้าใจกันและกันผ่านทางการทำงานในวงการบันเทิงของฉัน เวลาที่รู้สึกโดดเดี่ยว พวกเขาจะเป็นกำลังให้ฉันได้มาก เพราะงั้นฉันเลยอยากทำอะไรก็ได้ที่จะสามารถตอบแทนพวกเขาได้"
"ความลับหรอคะ? มันก็แค่... ฉันไม่มีกำแพงกั้นตัวเองจากแฟนคลับเลยจริงๆ เพราะงั้นมันเลยเป็นความรู้สึกเหมือนกับเป็นเพื่อนกัน พวกเขาไม่ได้กดดันหรือยกย่องอะไรฉันมากมาย เราต่างทำตัวสบายๆ บางทีก็เย็นชาใส่กันบางทีก็อบอุ่น ฉันรู้สึกขอบคุณเสมอที่ได้มีแฟนคลับแบบนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเรามันไม่ได้เป็นแบบนักร้องกับแฟนคลับเท่าไหร่นัก แต่มันเหมือนเพื่อนที่เข้าใจกันและกันผ่านทางการทำงานในวงการบันเทิงของฉัน เวลาที่รู้สึกโดดเดี่ยว พวกเขาจะเป็นกำลังให้ฉันได้มาก เพราะงั้นฉันเลยอยากทำอะไรก็ได้ที่จะสามารถตอบแทนพวกเขาได้"
ไอยูมีชื่อเสียงในเรื่องการเป็น 'พวกคลั่งแฟนคลับ'* เธอดูแลเอาใจใส่แฟนคลับของตัวเองได้ดีมาก เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา การอัดรายการ 'อินกิกาโย' และแสดงสดที่รายการ 'เอ็ม เคาน์ดาวน์' นั้นกินเวลาต่อกัน แฟนๆต้องรอนานเป็นชั่วโมงและไอยูก็เลี้ยงแกงทหาร** พวกเขาเป็นมื้อค่ำ ในช่วงครบรอบเดบิวต์ 4ปี เธอเขียนข้อความโดยการเขียนคำลงบนต้นกระบองเพชรทีละต้นเป็นข้อความว่า "ขอบคุณสำหรับแฟน ๆ ที่ให้การสนับสนุนฉันเสมอ ฉันไม่สามารถรับประกันกับคำว่า 'ตลอดไป' แต่ในช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันนี้มามีความสุขกันเถอะ รักพวกคุณค่ะ"
จากคำ 'ขอบคุณ' ที่เธอมักจะพูดเสมอเวลาให้สัมภาษณ์ ภาพลักษณ์ของเธอนั้นดูเหมือนมันไม่ได้สร้างมาเพื่อการออกอากาศหรือการออกสื่อ แต่รู้สึกได้ว่ามันออกมาจากใจของเธอจริงๆ และด้วยภาพลักษณ์แสนจริงใจที่เธอรักษาเอาไว้เสมอแบบนี้ที่ทำให้เธอส่องสว่างมากขึ้นทุกที
(NOTE : *ไม่รู้ให้ความหมายยังไง จริงๆในภาษาเกาหลีใช้คำว่า 팬바보(แฟนพาโบ) อารมณ์ก็ประมาณรักแฟนคลับมาก ตัวอย่างนัมอูฮยอนวงอินฟินิทที่ชอบพูดตลอดว่า 'แฟนคลับอะไรกัน นั่นแฟนผมต่างหาก' (ทำไมต้องยกตัวอย่างนี้5555) สรุปก็คือนี่แหละค่ะคือไอดอลที่รักและดูแลแฟนคลับเป็นอย่างดีและไม่ถือตัว ประมาณนี้แหละมั้ง
**부대찌개 (พูแดจิเก) หรือแกงทหาร เป็นแกงที่เอาผัก ไส้กรอก แฮม เส้นมาม่ามาต้มแกงรวมกัน มีที่มาจากทหารที่ไปออกรบแล้วทหารหลายๆชาติมาอยู่รวมกัน พอหิวขึ้นมาก็เอาของที่ชาติตัวเองมีมาแล้วต้มๆรวมกันเลยเรียกว่าแกงทหาร55555555555 อันนี้น่าจะเรื่องจริงนะเหมือนเคยได้ยินมาจากรายการอะไรซักอย่างจำไม่ได้ ;_;)
ฉันจะเป็นไอยูผู้ทำงานหนัก 'เหมือนแม่วัว'
ครึ่งแรกของปี 2014 ผ่านไปแล้ว เช่นเดียวกับที่ทุกคนได้ตั้งปณิธานของปีนี้ไว้แล้วตั้งแต่ในช่วงต้นปี แล้วไอยูล่ะวางแผนแบบไหนไว้?
"ตอนต้นปีฉันหวังไว้ว่าขอให้ไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น ฉันจะได้ร้องเพลงและทำในสิ่งที่อยากทำ แค่อะไรธรรมดาแบบนั้นเองค่ะ แต่ในตอนนี้ที่เวลาครึ่งปีแรกผ่านไปแล้ว ฉันรู้สึกได้ว่าในปี 2014นี้มีอะไรที่แตกต่างจากปีอื่นๆ อืม... จะอธิบายยังไงดี....? จะบอกว่ามันเป็นปีที่ดีมากๆสำหรับฉันได้หรือเปล่า? อย่างไรก็ตาม ฉันก็หวังว่าฉันจะใช้เวลาในครี่งหลังของปีนี้ได้อย่างคุ้มค่า มีหลายๆอย่างที่ฉันอยากจะทำ เพราะงั้นมันยากที่จะสรุปรวบยอดออกมา แต่ว่าฉันพยายามมากๆที่จะเดินตามแผนเพราะฉะนั้นช่วยติดตามด้วยนะคะ ฉันตั้งใจไว้ว่าจะทำงานเหมือนกับ 'แม่วัว' จนกว่าแฟนๆจะบอกให้ฉันหยุด"
ภาพถ่ายไอยูระหว่างการสัมภาษณ์และในงาน
บทความจาก Young Samsung
เขียนบทความโดย คังฮยองจุน
ภาพโดย ฮันชุงฮี มหาวิทยาลัยโซล
คำแปลภาษาอังกฤษอ่านได้ที่ iu-jjang
คำแปลภาษาไทย s5ul
เขียนบทความโดย คังฮยองจุน
ภาพโดย ฮันชุงฮี มหาวิทยาลัยโซล
คำแปลภาษาอังกฤษอ่านได้ที่ iu-jjang
คำแปลภาษาไทย s5ul